วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

ประวัติบาสเกตบอลโดยย่อ


กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาประเภททีม มีผู้เล่นฝ่ายละ 5 คน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำลูกไปโยนลงห่วงประตูของฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่สุด โดยมีทักษะการเล่น ได้แก่ การส่ง รับลูก การเลี้ยงลูกและการยิงประตู
     กีฬาบาสเกตบอลมีกำเนิดขึ้น ครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย ดร. เจมส์ เอ เนสมิท (James A. Naismith) ได้คิดขึ้นเพื่อเล่นในโรงพลศึกษาของโรงเรียนฝึกอบรม ของสมาคมวายเอ็มซีเอนานาชาติ (International Young Men’s Christian Association Training School) ที่เมือง สปริงฟีลด์ มลรัฐแมสซาซูเซตส์ ในช่วงที่มีหิมะตก เมื่อ ค.ศ. 1891 (พ.ศ. 2434) โดยใช้ตะกร้าลูกพีช 2 ใบแขวนเป็นประตู เป็นที่มาของชื่อว่า “บาสเกตบอล” (Basketball) การเล่นครั้งนั้นใช้ ลูกฟุตบอลเป็นลูกบอล มีผู้เล่นทั้งหมด 18 คน แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละ 9 คน มีกฎการเล่น 4 ข้อ คือ
     1. ห้ามถือลูกเคลื่อนที่
     2. ห้ามผู้เล่นปะทะตัวกัน
     3. ประตูอยู่ระดับศีรษะและขนานพื้น
     4. ผู้เล่นจะถือลูกบอลนานเท่าใดก็ได้ และผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะต้องไม่ถูกตัวผู้เล่น
ต่อมามีการปรับปรุงการเล่นเป็น 13 ข้อ โดยลดผู้เล่นเหลือฝ่ายละ 5 คน เนื่องจากในการเล่นเกิดการ ปะทะกันเพราะสนามแคบ ดังนั้นจึงทำให้เกมการเล่นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งยังลดการปะทะกันอีกด้วย ในปัจจุบันกติกาการเล่นดังกล่าวยังคงปรากฏอยู่ ณ โรงพลศึกษาเมืองสปริงฟีลด์ คือ
     1. การโยนลูกจะใช้มือเดียวหรือสองมือโดยไปในทิศทางใดก็ได้
     2. การตีลูกจะใช้มือเดียวหรือสองมือตีไปทิศทางใดก็ได้
     3. ผู้เล่นจะพาลูกบอลวิ่งไม่ได้ และต้องส่งตรงจุดรับลูกบอล ยกเว้นขณะที่วิ่งมารับลูกด้วยความเร็วให้เคลื่อนไหวได้เล็กน้อย
     4. ต้องจับลูกบอลด้วยมือทั้งสองข้าง โดยไม่ให้ใช้ส่วนอื่นของร่างกาย
     5 . การเล่นจะชน คือผลักหรือทำให้ฝ่ายตรงข้ามล้ม ถือว่าฟาวล์หนึ่งครั้ง ถ้าฟาวล์ครั้งที่สองให้ออกจากการแข่งขัน จนกว่า  จะมีผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยิงประตูได้จึงจะกลับมาเล่นได้อีก ถ้าเกิดการบาดเจ็บขณะเล่นไม่อนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัว
     6. การทุบด้วยกำปั้นถือว่าผิดกติกาให้ปรับเช่นเดียวกับ ข้อ 5
     7 . ทีมใดทำฟาวล์ติดต่อกัน 3 ครั้ง ถือให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ประตู
     8. การได้ประตูทำได้โดยการโยนหรือปัดลูกบอลให้ขึ้นไปอยู่บนตะกร้า
     9. เมื่อลูกบอลออกนอกสนาม ผู้เล่นนที่จับลูกบอลคนแรกเป็นผู้ทุ่มลูกเข้ามาเล่นต่อ  กรณีที่ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครก่อนหลังผู้ตัดสินจะส่งลูกบอลเข้ามาให้ ผู้ส่งจะต้องส่งลูกบอลเข้าสนามภายใน 5 วินาที ถ้าช้ากว่านี้จะให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามส่งแทน ถ้าผู้เล่นถ่วงเวลาการเล่นให้ปรับฟาวล์
    10.ผู้ตัดสินมีหน้าที่ตัดสินผู้ฟาวล์ และลงโทษผู้เล่น
    11.ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินลูกบอลออกนอกสนาม และรักษาเวลา บันทึกจำนวนลูกที่ได้  และทำหน้าที่ทั่วไปของผู้ตัดสิน
    12.การเล่นแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที
    13.ฝ่ายที่ทำประตูได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะ ถ้าคะแนนเท่ากันหัวหน้าทีมจะตกลงกันเพื่อต่อเวลาแข่งขัน ฝ่ายใดทำประตูได้ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ
กติกานี้ใช้มาจนถึง ค.ศ. 1937 (พ.ศ. 2480) จึงได้ปรับปรุงแก้ไขครั้งใหญ่เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 11 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศสเยอรมันและใน ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2482) ดร.เจมส์ เอ. เนสมิท ก็เสียชีวิตลง ก่อน จะได้เห็นความสำเร็จ และความยิ่งใหญ่ในกีฬาบาสเกตบอลที่เขาคิดค้นขึ้น ต่อมาจากนั้นกีฬาบาสเกตบอลก็แพร่หลายพัฒนาการเล่นเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก องค์กรที่เกี่ยวข้องกับกีฬาบาสเกตบอลในระดับนานาชาติ ได้แก่ สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ (ชื่อภาษาอังกฤษ  International Amateur Basketball Federation ชื่อภาษาฝรั่งเศส Fe’de’ration International de Basketball Amateur ใช้ชื่อย่อว่า FIBA) นอกจากนี้ยังมีองค์กรในระดับทวีป เช่น สมาพันธ์บาสเกตบอลเอเชีย (Asian Basketball Confederation หรือ ABC) เป็นต้น

3 ความคิดเห็น: