วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

สุดยอดเซ็นเตอร์ แชคิล ราชอน โอนีล (Shaquille Rashaun O'Neal)

ตำแหน่ง
เซ็นเตอร์
ฉายา
แชค, ดีเซล, บิ๊กอริสโตเติล, ดอกเตอร์แชค, ซูเปอร์แมน ฯลฯ
ความสูง
7 ฟุต 1 นิ้ว (2.16 ม)
น้ำหนัก
325 ปอนด์ (148 กก.)
สัญชาติ
สหรัฐอเมริกา
วันเกิด
6 มีนาคม พ.ศ. 2515
ดราฟท์
ลำดับที่ 1 ปี 1992 (ออร์แลนโด แมจิก)



     แชคิล ราชอน โอนีล (Shaquille Rashaun O'Neal) เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า แชค (Shaq) เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลเอ็นบีเอที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง โอนีลเริ่มเล่นให้กับออร์แลนโด แมจิก ต่อมาเซ็นสัญญากับลอสแอนเจลิส เลเกอรส์ ก่อนจะถูกเทรดย้ายไปไมอามี ฮีท, ฟีนิกส์ ซันส์ และ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ ตามลำดับ มีชื่อเสียงเรื่องตัวใหญ่ด้วยความสูง 7 ฟุต 1 นิ้ว หนัก 340 ปอนด์ และใส่รองเท้าเบอร์ 22 ล่าสุดได้รับปริญญาโทบริหารธุรกิจ เขาเริ่มเล่นในเอ็นบีเอตั้งแต่อายุ 20 ปี และตลอดเวลาการเล่น 13 ปี สร้างผลงานที่เยี่ยมยอดและหลายคนถือว่าเขาเป็นเซ็นเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เคยมีมาทีเดียว
     โอนีลมีร่างกายที่พิเศษ ความสูง และน้ำหนัก ทำให้เขามีพละกำลังมาก และสำหรับคนรูปร่างขนาดนั้น แชคเป็นคนที่คล่องแคล่ว ท่า drop step ของเขาคือ เริ่มด้วยยีนหันหลังให้แป้นและผู้เล่นตั้งรับทีมตรงข้าม จากนั้นหมุนตัวและเอาตัวดันเพื่อทำสแลมดังก์ เป็นท่าที่ยากที่จะป้องกันได้ เขายังเป็นคนส่งลูกที่ดีและเล่นตั้งรับได้มีประสิทธิภาพ การที่มีคนอย่างเขาบริเวณใต้แป้นทำให้ทีมต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนแผนในการรุกและรับ หากจะป้องกันแชคโดยเอาผู้เล่นสองหรือสามคนมาประกบก็กลับทำให้เพื่อนร่วมทีมสามารถชู้ตลูกได้ง่ายๆ โดยไม่มีใครมาประกบ
     โอนีลเป็นคนที่ชู้ตลูกโทษแย่ที่สุดคนหนึ่งในเอ็นบีเอ ค่าเฉลี่ยตลอดการเล่นของเขาคือเพียง 53.1% ทีมตรงข้ามชอบใช้วิธีทำฟาวล์แชคโดยจงใจ เรียกกลยุทธนี้ว่า Hack-a-Shaq คิดและตั้งชื่อโดย ดอน เนลสัน โค้ชของดัลลัส แมฟเวอริกส์ แต่การชู้ตลูกโทษแย่ก็พบในผู้เล่นยิ่งใหญ่อีกหลายคน เช่น วิลท์ แชมเบอร์เลน การตั้งใจทำฟาวล์หรือ Hack-a-Shaq นี่เองที่ทำให้เอ็นบีเอตั้งกติกาขึ้นใหม่ว่า ห้ามจงใจทำฟาวล์ผู้เล่นที่ไม่ได้ถือบอล จนกว่าจะเหลือเวลาการแข่งขันต่ำกว่า 2 นาที ไม่เช่นนั้นจะถือเป็นการทำฟาวล์ทางเทคนิค (Technical Foul) ทันที
     จุดอ่อนอีกอย่างหนึ่งของเขาคือเรื่องน้ำหนัก โอนีลมักปรากฏตัวในแคมป์ฝึกซ้อมก่อนฤดูกาลด้วยน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ในช่วงสองสามปีสุดท้ายกับทีมลอสแอนเจลิส เลเกอรส์ เขาหนักประมาณ 350 ปอนด์ (160 กิโลกรัม) เมื่อแชคมีน้ำหนักตัวมากเกินไป เขามักมีปัญหาการบาดเจ็บโดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่โป้งเท้าข้างขวา เขามีอาการเจ็บปวดเรื้อรังที่ข้อต่อนิ้วโป้งเท้าขวาจากการวิ่ง กระโดด และดังก์ ด้วยน้ำหนักตัวที่สูงเป็นเวลามากกว่าสิบปี
     หลายคนรู้สึกว่าความดังของแชคทำให้กรรมการละเลยที่จะเรียกฟาวล์เมื่อทำผิดกฎบางอย่าง เช่นท่าชู้ตลูกโทษของแชคที่ละเมิดกฎที่ห้ามไม่ให้คนชู้ตลูกโทษล้ำข้ามเส้นลูกโทษจนกว่าลูกจะกระทบกับห่วงหรือแป้นบาส แต่คนที่เข้าข้างแชคมักพูดว่า เนื่องจากรูปร่างที่ใหญ่โตของเขา กรรมการมักปล่อยให้คนอื่นเล่นรุนแรงขึ้นกับแชค
     จุดอ่อนสำคัญประการล่าสุดชองแชคตอนนี้คือ อายุ ตามสถิติของเอ็นบีเอแล้ว ผู้เล่นที่มีความสูงเกินกว่า 7 ฟุต (ประมาณ 213 เซนติเมตร) จะมีค่าเฉลี่ยต่างๆ ลดลงหลังจากอายุ 30 ปี โดยเฉพาะการทำคะแนนที่จะต่ำกว่า 20 คะแนนต่อเกม ซึ่งแชคก็ไม่สามารถหนีสถิตินี้พ้นเช่นเดียวกัน
     นอกสนาม แชคมีความสนใจงานในหน่วยงานตำรวจมาก เขาผ่านหลักสูตรโรงเรียนตำรวจของลอสแอนเจลิส และเป็นเจ้าหน้าที่สำรองของตำรวจท่าของลอสแอนเจลิส
     เมื่อมีนาคม พ.ศ. 2548 เขาได้รับยศกิตติมศักดิ์ U.S. Deputy Marshal และเป็นโฆษกของสถาบัน Safe Surfin' และยังทำงานร่วมกับหน่วยที่มีชื่อเดียวกันเพื่อตามล่าผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อล่อลวงเด็กทางเพศ
     เมื่อแชคย้ายไปอยู่ไมอามี แชคเริ่มฝึกเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่สำรองของเมืองไมอามีบีช และเข้าสาบานตัวเป็นเจ้าหน้าที่เมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2548 แชคสนใจทำงานด้านสืบสวนสอบสวน สำหรับป้องกันอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับเด็ก

รางวัล
- โอนีลได้รับเลือกให้เล่นเกมออลสตาร์ทุกปีตั้งแต่ที่เริ่มเล่นในเอ็นบีเอเมื่อ พ.ศ. 2536 (ยกเว้นปี 2542 เมื่อมีการประท้วงหยุดเล่นและงดออลสตาร์เกม)
- เป็นผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ในรอบไฟนอลของเอ็นบีเอ (พ.ศ. 2543 ถึง 2545)
- ได้รับเลือกเป็น All-NBA-Defensive ในปี พ.ศ. 2543, 2544 และ 2546 (แต่ไม่จัดอยู่ในทีมแรก)
- เป็นผู้เล่นคนสำคัญใน World Championship ปี 2537 และ โอลิมปิกปี 2539 และเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในทีม
- เป็นผู้เล่นคนแรกในเอ็นบีเอที่ทำค่าเฉลี่ย 20 แต้ม 10 รีบาวด์ต่อเกมรวมกัน 13 ฤดูกาล
- ได้รับเลือกในทีมออล-เอ็นบีเอ 11 ปี
- ได้รับเลือกเป็น MVP ในฤดูกาล 1999-00 (พ.ศ. 2542-43) และ ในออลสตาร์เกมของฤดูกาล 2003-04 (พ.ศ. 2546-47)
- ได้รับปริญญาด้านพาณิชยศาสตร์จาก LSU ที่นั่นมีที่พักตั้งชื่อว่า Shaquille O'Neal Lodge เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ประชุม Cook Conference Center
 -ได้รับปริญญาโทบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยแห่งฟีนิกส์ (University of Phoenix) เมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2548

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น