วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

สุดยอดชู้ตติ้งการ์ด & พอยท์การ์ด ดเวน เหว็ด (Dwyane Wade)


ตำแหน่ง
ชู้ตติ้งการ์ด & พอยท์การ์ด
ฉายา
แฟลช, ดี-เหว็ด
ความสูง
6 ฟุต 4 นิ้ว (1.93 ม)
น้ำหนัก
212 ปอนด์ (96 กก.)
สัญชาติ
สหรัฐอเมริกา
ทีม
ไมอามี ฮีท
วันเกิด
17 มกราคม พ.ศ. 2525
ดราฟท์
ลำดับที่ 5 ปี 2003 (ไมอามี ฮีท)

     ดเวน เหว็ด เกิดทางตอนใต้ของเมืองชิคาโก มีพ่อชื่อ ดเวน เหว็ด ซีเนียร์ (Dwyane Wade, Sr.) กับแม่ชื่อ โจลินดา เหว็ด (Jolinda Wade) พ่อแม่เขาหย่ากัน ดเวนอาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงเขาในเมือง รอบบินส์ มลรัฐอิลลินอยส์ และเขามักพูดเสมอว่ามีพี่สาวของเขาเป็นคนที่พาเขาไปในทางที่ถูกต้อง
     เหว็ด ถูกดราฟเป็นอันดับที่ 5 ในการดราฟของเอ็นบีเอในปี 2003 โดยไมอามี ฮีท และกลายเป็นดาวในทีมทันที เขาทำได้ 16 คะแนน 4 รีบาวด์ และ 4 แอสซิสต์ในปีแรก และยังทำผลงานได้ดีในรอบเพลยออฟโดยเฉพาะตอนที่เจอกับอินดีอานา เพเซอรส์ในรอบก่อนชิงแชมป์คอนเฟอเรนซ์ตะวันออก แต่ว่าในปีนั้นผู้เล่นหน้าใหม่อีกสองคนคือ คาเมโล แอนโทนี และ เลอบรอน เจมส์ กลับเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนมากกว่า จากความสำเร็จในปีแรกของ เหว็ด เขาก็ได้รับการคัดเลือกเข้าทีมชาติสหรัฐ
     ฤดูกาล 2004-05 เมื่อแชคิล โอนีลถูกเทรดจากทีมลอสแอนเจลิส เลเกอรส์มายังฮีท ผลงานของเหว็ดดีขึ้นในทุกด้านไ ม่ว่าจะเป็นคะแนนเฉลี่ย แอสซิสต์ และ รีบาวด์ ได้รับเลือกในเกมออลสตาร์ ฮีทขยับผลงานจากชนะ 42 แพ้ 40 ในปีก่อนหน้ามาเป็น ชนะ 59 แพ้ 23 หรือดีขึ้นถึง 17 เกม และเป็นสถิติแพ้ชนะที่ดีที่สุดในคอนเฟอเรนซ์ตะวันออก
     ในรอบเพลย์ออฟ 2005 รอบแรกกับนิวเจอร์ซีส์ เน็ตส์ ฮีทชนะรวดโดยเหว็ดเล่นได้เฉลี่ย 26.3 คะแนน 8.8 แอสซิสต์ 6.0 รีบาวด์ และเปอร์เซนต์การชู้ต 50% ถือเป็นผู้เล่นคนที่เจ็ดที่สามารถทำ 25 คะแนน 8 แอสซิสต์ 6 รีบาวด์และชู้ตอย่างน้อย 50% เหว็ดทำได้อีกครั้งในรอบสองเอาชนะวอชิงตัน วิซารดส์ 4 เกมรวด ที่ผลงาน 31 แต้ม 7 รีบาวด์ 8 แอสซิสต์ต่อเกม ฮีทไปแพ้ดีทรอยต์ พิสตันส์  ใน 7 เกมตอนแข่งรอบชิงแชมป์คอนเฟอร์เรนซ์ตะวันออก เหว็ดทำคะแนนได้ 40 และ 36 ในเกม 2 และเกม 3 ขณะตอนที่เป็นไข้ ไซนัสอักเสบ และเจ็บเข่า เขาบาดเจ็บกล้ามเนื้อซี่โครงในเกม 5 ทำให้อดเล่นในเกม 6 และเล่นได้จำกัดในเกม 7 ความพ่ายแพ้ในเกม 7 ส่วนหนึ่งมาจากสภาพที่ไม่สมบูรณ์ของเหว็ด ซึ่งก่อนหน้านี้ฮีทนำพิสตันส์อยู่ 3 ต่อ 2 เกม
     ฤดูการ 2005-06 เหว็ดถูกเลือกให้เล่นในเกมรวมดาราเอ็นบีเออีกเป็นครั้งที่สอง และยังเป็นคนที่ทำให้ทีมชนะด้วย ตลอดฤดูกาลเหว็ดเล่นเฉลี่ย 27.2 แต้ม 6.7 แอสซิสต์ 5.7 รีบาวด์ 1.95 สตีล ในรอบเพลย์ออฟ เหว็ดเจ็บสะโพกแต่ก็กลับมาพาทีมชนะในรอบแรก และชนะดีทรอยต์ พิสตันส์ ในรอบชิงคอนเฟอร์เรนซ์ตะวันออก เข้ารอบชิงแชมป์เอ็นบีเอเป็นครั้งแรก
     ในรอบชิง ฮีทพบกับดัลลัส แมฟเวอริกส์ เหว็ดยังโชว์ความสามารถของเขา ในเกม 3, 4 และ 5 เหว็ดทำได้ 42, 36 และ 43 คะแนนตามลำดับ พาทีมจากการเป็นรอง 0 ต่อ 2 เกม มานำ 3 ต่อ 2 เกม ฮีทชนะในเกม 6 และคว้าแชมป์เอ็นบีเอ และเหว็ดได้รับรางวัลเอ็มวีพีรอบไฟนอล
     ในฤดูกาล 2006-07 เหว็ดได้รับเลือกเล่นในเกมรวมดาราเป็นปีที่สามติดต่อกัน แต่ทีมฮีทก็เริ่มต้นฤดูกาลโดยชนะเพียง 20 แต่แพ้ถึง 25 เกม แต่หลังจากที่แชคหายจากการบาดเจ็บ และโค้ชแพท ไรเลย์ กลับมาหลังผ่าตัดสะโพกและหัวเข่า ฮีทมีท่าทีว่าจะทำผลงานในครึ่งหลังได้ดี แต่ในเกมระหว่างฮีทกับฮิวส์ตัน รอกเก็ตส์เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ เหว็ดหัวไหล่ซ้ายเคลื่อนระหว่างการพยายามขโมยลูกจาก เชน แบททิเยร์ และต้องพาออกนอกสนามด้วยรถเข็น เหว็ดต้องตัดสินใจระหว่างการพักฟื้นและกลับมาเล่นใหม่ช่วงปลายฤดูกาล หรือผ่าตัดและรอจนฤดูกาลหน้ากว่าจะเล่นได้อีก เหว็ดประกาศเมื่อ 5 มีนาคมว่าจะเลื่อนการผ่าตัดออกไปและพักเพื่อพยายามกลับมาเล่นให้ทีมให้ทันช่วงเพลย์ออฟ
     เหว็ดกลับมาเล่นอีกครั้งในวันที่ 8 เมษายน หลังจากพักไป 23 เกม ในเกมแรกที่กลับมา เหว็ดแข่งกับชาล็อต บ็อบแคทส์ทำได้ 12 คะแนน 8 แอสซิสต์ แต่แพ้ต่อเวลาที่คะแนน 103 ต่อ 111 เหว็ดจบฤดูกาลด้วยสถิติเฉลี่ย 27.4 แต้ม 7.5 แอสซิสต์ 4.7 รีบาวด์ และ 2.1 สตีล ต่อเกม
     ในรอบเพลย์ออฟ เหว็ด เล่นได้เฉลี่ย 23.5 แต้ม 6.3 แอสซิสต์ 4.8 รีบาวด์ต่อเกม แต่ฮีทก็ตกรอบแรกโดยแพ้ ชิคาโก บุล สี่เกมรวด เหว็ดผ่าตัดไหล่ซ้ายและเข่าซ้ายและจะต้องพักช่วงเดือนแรกของฤดูกาล 2007-08

รางวัล
- แชมป์เอ็นบีเอ กับทีมไมอามี ฮีท: ปี 2006
- รางวัลเอ็มวีพีรอบไฟนอล: ปี 2006
- ได้รับเลือกเล่นในเกมออลสตาร์: ปี 2005, 2006, 2007
- เหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก กับทีมชาติสหรัฐ ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ปี 2008
- เหรียญทองแดงในกีฬาโอลิมปิก กับทีมชาติสหรัฐ ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ ปี 2004
- เหรียญทองแดงในฟีบาเวิร์ลแชมเปียนชิพ กับทีมชาติสหรัฐ ปี 2006

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น